Uncategorized

Core Web Vitals คืออะไร? ช่วยให้เว็บไซต์โดดเด่นบนโลกออนไลน์ได้อย่างไร

ในยุคออนไลน์ที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้าถึงข้อมูลและบริการผ่านโลกออนไลน์ เว็บไซต์กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงธุรกิจและลูกค้าเข้าด้วยกัน แต่ในขณะเดียวกัน ความคาดหวังของผู้ใช้งานเกี่ยวกับประสิทธิภาพและประสบการณ์ในการใช้งานเว็บไซต์ก็สูงขึ้นอย่างมาก เว็บไซต์ที่โหลดช้า ตอบสนองไม่ทันใจ หรือมีการแสดงผลผิดพลาด ย่อมทำให้ผู้ใช้งานหงุดหงิดและอาจสูญเสียโอกาสทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย

นี่คือจุดที่ Core Web Vitals เข้ามามีบทบาทสำคัญ ตัวชี้วัดนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นโดย Google เพื่อใช้ประเมินคุณภาพของเว็บไซต์ในมุมมองของผู้ใช้งาน โดยมุ่งเน้นไปที่ความเร็ว ความเสถียร และประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น

สำหรับเจ้าของธุรกิจหรือผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำตลาดออนไลน์ Core Web Vitals ไม่ใช่เพียงแค่ “อีกหนึ่งปัจจัยที่ควรใส่ใจ” แต่เป็น หัวใจสำคัญ ที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถสร้างความประทับใจและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทำไมการพัฒนาเว็บไซต์จึงเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้?

ลองจินตนาการถึงสถานการณ์ที่คุณเป็นลูกค้า กำลังมองหาสินค้าหรือบริการบนอินเทอร์เน็ต คุณพบเว็บไซต์ที่ดูมีเนื้อหาน่าสนใจ แต่เมื่อคลิกเข้าไป คุณต้องรอโหลดนานเกินไป หรือเมื่อโหลดเสร็จ เนื้อหาบนหน้าเว็บกลับเลื่อนตำแหน่งไปมาอย่างน่ารำคาญ คุณจะยังคงอยากใช้บริการเว็บไซต์นี้อยู่หรือไม่?

คำตอบที่พบบ่อยคือ “ไม่” ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ในปัจจุบันมีความอดทนต่ำ การรอโหลดเว็บไซต์ที่ช้าเกินไปแม้เพียงไม่กี่วินาที อาจทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจและเลือกไปยังเว็บไซต์คู่แข่งที่ตอบสนองได้ดีกว่า

จากการศึกษาของ Google พบว่า หากเว็บไซต์ของคุณมีเวลาโหลดหน้าเว็บ (Page Load Time) เกินกว่า 3 วินาที โอกาสที่ผู้ใช้งานจะออกจากเว็บไซต์ (Bounce Rate) จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

บทบาทของ Core Web Vitals ในโลกการตลาดออนไลน์

Core Web Vitals ไม่ใช่แค่แนวคิดหรือเทคนิคใหม่ แต่เป็นมาตรฐานที่ Google ใช้ในการประเมินประสบการณ์ของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ โดยตัวชี้วัดนี้มีผลต่อการจัดอันดับ (Ranking) บนหน้าผลลัพธ์การค้นหา (Search Engine Results Page หรือ SERP) ซึ่งหมายความว่า หากเว็บไซต์ของคุณมีคะแนน Core Web Vitals ที่ดี คุณจะมีโอกาสมากขึ้นในการติดอันดับต้น ๆ บน Google

ในทางตรงกันข้าม หากเว็บไซต์ของคุณมีคะแนนที่ต่ำ มันอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณสูญเสียโอกาสในการดึงดูดผู้ใช้งาน และส่งผลกระทบต่อยอดขายหรือ Conversion โดยรวม

Core Web Vitals สำคัญอย่างไรกับธุรกิจออนไลน์?

  1. ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
    เว็บไซต์ที่มี Core Web Vitals ดีช่วยดึงดูดผู้ใช้งานให้อยู่บนเว็บไซต์นานขึ้น เพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะกลายเป็นลูกค้าจริง

  2. เพิ่มความน่าเชื่อถือ
    ประสบการณ์ที่ดีช่วยสร้างความประทับใจและความไว้วางใจในแบรนด์

  3. ลดต้นทุนโฆษณา
    เว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพสูงช่วยเพิ่มคะแนน Quality Score ของโฆษณา SEM ซึ่งสามารถลดค่าโฆษณาต่อคลิก (CPC)

  4. สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
    ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เว็บไซต์ที่โหลดเร็วและมีประสบการณ์ที่ดีช่วยให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นกว่าใคร

Core Web Vitals เป็นทั้งเครื่องมือและแนวทางในการปรับปรุงคุณภาพเว็บไซต์ที่สำคัญในยุคออนไลน์ เว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพไม่ได้หมายถึงแค่การโหลดเร็วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเสถียรและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้งาน การให้ความสำคัญกับ Core Web Vitals ไม่เพียงช่วยเพิ่มอันดับ SEO แต่ยังช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและศักยภาพของธุรกิจในระยะยาว

การเตรียมเว็บไซต์ให้พร้อมสำหรับอนาคต คือการเริ่มต้นปรับปรุงตั้งแต่วันนี้ หากคุณต้องการความช่วยเหลือหรือคำปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ Snail Rocket พร้อมเป็นพันธมิตรที่คุณวางใจได้ในทุกก้าวของความสำเร็จ

Core Web Vitals คืออะไร?

Core Web Vitals คือชุดตัวชี้วัดสำคัญที่ Google ใช้ประเมินคุณภาพของเว็บไซต์ในเชิงประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience หรือ UX) โดยเน้นไปที่สามปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความเร็ว การโต้ตอบ และความเสถียรของหน้าเว็บไซต์ ทั้งสามตัวชี้วัดนี้ประกอบด้วย Largest Contentful Paint (LCP), First Input Delay (FID) และ Cumulative Layout Shift (CLS)

ตัวชี้วัด 3 ด้านของ Core Web Vitals

  1. Largest Contentful Paint (LCP)
    LCP เป็นตัวชี้วัดที่วัดระยะเวลาที่เนื้อหาหลักของหน้าเว็บไซต์แสดงผลจนสมบูรณ์ ค่า LCP ที่ดีควรน้อยกว่า 2.5 วินาที

ตัวอย่าง: หากเว็บไซต์ของคุณเป็นร้านค้าออนไลน์ หน้าสินค้าต้องแสดงภาพสินค้า ข้อมูล ราคา และปุ่มสั่งซื้อให้ครบถ้วนภายในเวลาที่กำหนด

  1. First Input Delay (FID)
    FID วัดความเร็วในการตอบสนองครั้งแรกเมื่อผู้ใช้งานคลิกหรือโต้ตอบกับเว็บไซต์ เช่น การกดปุ่มหรือการกรอกแบบฟอร์ม ค่า FID ที่ดีควรน้อยกว่า 100 มิลลิวินาที

ตัวอย่าง: เว็บไซต์ที่ตอบสนองเร็วช่วยสร้างความพึงพอใจและเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งานดำเนินการต่อจนสำเร็จ

  1. Cumulative Layout Shift (CLS)
    CLS วัดความเสถียรของหน้าเว็บไซต์ระหว่างการโหลด ค่านี้ควรน้อยกว่า 0.1 เพื่อป้องกันการเลื่อนตำแหน่งของเนื้อหา เช่น การเปลี่ยนตำแหน่งของปุ่มหรือข้อความที่อาจทำให้ผู้ใช้งานคลิกผิด

Google เริ่มนำ Core Web Vitals มาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับการจัดอันดับเว็บไซต์บนผลลัพธ์การค้นหา (SEO) ตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งหมายความว่า หากเว็บไซต์ของคุณให้ประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้งาน โอกาสที่เว็บไซต์จะติดอันดับสูงใน Google ก็จะเพิ่มมากขึ้น

Core Web Vitals สำคัญต่อผู้ใช้งานอย่างไร?

ผู้ใช้งานในยุคปัจจุบันต้องการประสบการณ์การท่องเว็บที่ รวดเร็ว ราบรื่น และน่าเชื่อถือ เว็บไซต์ที่โหลดช้า ตอบสนองไม่ทันใจ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการแสดงผล ย่อมทำให้ผู้ใช้งานหงุดหงิดและอาจเปลี่ยนใจไปหาคู่แข่ง

ตัวอย่างเช่น

  • หากคุณเปิดเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์แต่ต้องรอโหลดนานกว่า 5 วินาที โอกาสที่คุณจะออกจากเว็บนั้นสูงถึง 90%

  • หากคุณคลิกปุ่ม “ซื้อสินค้า” แล้วเกิดการตอบสนองล่าช้า ความไว้วางใจที่มีต่อเว็บไซต์นั้นก็จะลดลง

ดังนั้น Core Web Vitals จึงเข้ามาเป็นเครื่องมือวัดประสบการณ์ผู้ใช้งาน เพื่อให้เจ้าของเว็บไซต์มั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของตนไม่เพียงแต่ดูดี แต่ยัง ใช้งานได้ดี อีกด้วย

ทำไม Core Web Vitals ถึงเป็นอนาคตของการตลาดออนไลน์?

ในยุคที่การแข่งขันสูงขึ้น การสร้างความแตกต่างให้เว็บไซต์ของคุณไม่ใช่แค่การออกแบบที่สวยงาม แต่คือการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน Core Web Vitals จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้

ข้อดีของการพัฒนา Core Web Vitals ได้แก่

  • เพิ่มความน่าเชื่อถือ เว็บไซต์ที่โหลดเร็วและเสถียรช่วยสร้างความไว้วางใจในแบรนด์

  • เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ผู้ใช้งานที่พึงพอใจกับประสบการณ์บนเว็บไซต์มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการมากขึ้น

  • เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น SEO หรือ SEM เว็บไซต์ที่มี Core Web Vitals ที่ดีจะช่วยเพิ่มผลลัพธ์และลดต้นทุน

Core Web Vitals ไม่ใช่ทางเลือก แต่คือความจำเป็น

หากคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นและแข่งขันในตลาดออนไลน์ได้อย่างยั่งยืน Core Web Vitals คือสิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญ การปรับปรุงเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับตัวชี้วัดนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มอันดับ SEO แต่ยังสร้างความประทับใจให้ผู้ใช้งาน และช่วยเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจของคุณเติบโต

สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการปรับปรุง Core Web Vitals หรือเพิ่มประสิทธิภาพ SEO และ SEM ให้กับเว็บไซต์ Snail Rocket พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยคุณก้าวสู่ความสำเร็จในโลกออนไลน์

Core Web Vitals กับ SEO ตัวช่วยสร้างเว็บไซต์ที่เหนือกว่า

ในโลกของการตลาดออนไลน์ การทำ SEO (Search Engine Optimization) ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับในผลการค้นหาบน Google อย่างไรก็ตาม การมีเนื้อหาที่ดีหรือคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป หากเว็บไซต์ของคุณไม่สามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งานได้

Core Web Vitals จึงกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้ประเมินคุณภาพของเว็บไซต์ และมีผลต่ออันดับ SEO อย่างชัดเจน การพัฒนาเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับตัวชี้วัดนี้จึงเป็น “ตัวช่วยสร้างความเหนือกว่า” ในการแข่งขันออนไลน์

Core Web Vitals คืออะไรในมุมของ SEO?

Core Web Vitals เป็นชุดตัวชี้วัดที่ Google ใช้เพื่อวัดประสบการณ์ผู้ใช้งานบนหน้าเว็บไซต์ (User Experience) โดยเน้นสามองค์ประกอบหลัก

  1. Largest Contentful Paint (LCP)
    วัดความเร็วในการโหลดเนื้อหาหลักของหน้าเว็บ (เช่น รูปภาพใหญ่หรือข้อความสำคัญ) ค่าที่ดีควรต่ำกว่า 2.5 วินาที

  2. First Input Delay (FID)
    วัดเวลาที่เว็บไซต์ใช้ในการตอบสนองต่อการโต้ตอบครั้งแรกของผู้ใช้งาน (เช่น คลิกปุ่ม) ค่าที่เหมาะสมควรต่ำกว่า 100 มิลลิวินาที

  3. Cumulative Layout Shift (CLS)
    วัดความเสถียรของการแสดงผลหน้าเว็บ ค่าที่ดีควรต่ำกว่า 0.1 เพื่อป้องกันปัญหาการแสดงผลเลื่อนหรือคลิกผิดพลาด

ทั้งสามตัวชี้วัดนี้สะท้อนถึงความเร็ว ความราบรื่น และความเสถียรของเว็บไซต์ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของผู้ใช้งาน

Core Web Vitals ส่งผลต่อ SEO อย่างไร?

Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ผู้ใช้งานมากขึ้น โดย Core Web Vitals ได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยจัดอันดับ SEO ตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งหมายความว่า หากเว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ Core Web Vitals โอกาสที่เว็บไซต์จะติดอันดับสูงก็จะเพิ่มขึ้น

1. ความเร็วโหลดหน้า (LCP) กับ SEO

เว็บไซต์ที่โหลดช้าไม่เพียงแต่สร้างความรำคาญให้ผู้ใช้งาน แต่ยังทำให้ Bounce Rate (อัตราการออกจากเว็บไซต์) สูงขึ้นด้วย Google ตระหนักถึงปัญหานี้และใช้ LCP เป็นตัวชี้วัดว่าเว็บไซต์สามารถสร้าง “First Impression” ได้ดีเพียงใด หาก LCP ต่ำกว่า 2.5 วินาที เว็บไซต์ของคุณจะได้รับคะแนน SEO ที่สูงขึ้น

2. การตอบสนองต่อการโต้ตอบ (FID) กับ SEO

หากเว็บไซต์ตอบสนองช้าหลังจากที่ผู้ใช้งานคลิกปุ่มหรือลิงก์ จะทำให้เกิดความไม่พึงพอใจ Google ใช้ FID เป็นตัววัดประสิทธิภาพในการโต้ตอบของเว็บไซต์ เพราะการตอบสนองที่รวดเร็วช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมกับเว็บไซต์มากขึ้น

3. ความเสถียรของการแสดงผล (CLS) กับ SEO

การแสดงผลที่เลื่อนตำแหน่งอย่างกะทันหัน เช่น ปุ่มที่เปลี่ยนตำแหน่งในขณะที่ผู้ใช้งานกำลังกด อาจทำให้เกิดความสับสนหรือการคลิกผิดพลาด CLS ช่วยวัดความเสถียรนี้ หากเว็บไซต์ของคุณมี CLS ต่ำ ผู้ใช้งานจะรู้สึกมั่นใจในการใช้งาน และคะแนน SEO ของคุณจะดีขึ้น

Core Web Vitals กับผลลัพธ์ในหน้า SERP

หน้าแรกของ Google คือพื้นที่การแข่งขันที่ดุเดือด เว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ Core Web Vitals ได้ดีจะมีโอกาสสูงกว่าในการติดอันดับหน้าแรก

1. เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic)

เว็บไซต์ที่ติดอันดับสูงจะได้รับการเข้าชมมากขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อยอดขายและการสร้างแบรนด์

2. ลด Bounce Rate

เมื่อเว็บไซต์โหลดเร็ว ตอบสนองไว และแสดงผลอย่างราบรื่น ผู้ใช้งานจะมีแนวโน้มอยู่ในเว็บไซต์นานขึ้น

3. เพิ่ม Conversion Rate

ประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ดีนำไปสู่การตัดสินใจซื้อสินค้า บริการ หรือการกระทำอื่น ๆ ที่เป็นเป้าหมายของธุรกิจ

เปรียบเทียบเว็บไซต์ที่พัฒนา Core Web Vitals กับเว็บไซต์ที่ไม่พัฒนา

เว็บไซต์ที่พัฒนา Core Web Vitals

เว็บไซต์ที่ไม่พัฒนา Core Web Vitals

โหลดเร็วและราบรื่น

โหลดช้าและสะดุด

ติดอันดับสูงใน SEO

ติดอันดับต่ำ

ผู้ใช้งานอยู่ในเว็บไซต์นาน

Bounce Rate สูง

Conversion สูง

Conversion ต่ำ

วิธีพัฒนา Core Web Vitals เพื่อเพิ่ม SEO

  1. ปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์
    ใช้เครื่องมืออย่าง Google PageSpeed Insights เพื่อตรวจสอบและปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์

  2. ลดไฟล์ที่ไม่จำเป็น
    บีบอัดไฟล์ภาพและโค้ด (เช่น HTML, CSS, JavaScript) เพื่อให้หน้าเว็บโหลดเร็วขึ้น

  3. ปรับปรุงเซิร์ฟเวอร์
    เลือกใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มีคุณภาพและ Content Delivery Network (CDN) เพื่อลดเวลาการโหลด

  4. หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนตำแหน่งเนื้อหา
    ใช้ขนาดภาพและฟอนต์ที่คงที่เพื่อป้องกันการเปลี่ยนตำแหน่งของเนื้อหา

Core Web Vitals ส่งผลต่อ SEM อย่างไร?

ในยุคออนไลน์ที่การแข่งขันด้านการตลาดออนไลน์ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานเว็บไซต์กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ธุรกิจไม่สามารถมองข้ามได้ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึง Search Engine Marketing (SEM) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงเว็บไซต์ผ่านการโฆษณาในเครื่องมือค้นหา เช่น Google Ads การให้ความสำคัญกับ Core Web Vitals ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคะแนน SEO แต่ยังช่วยยกระดับผลลัพธ์ใน SEM ด้วย

ความสำคัญของ Core Web Vitals ต่อ SEM 

1. เพิ่มคุณภาพคะแนนโฆษณา (Quality Score)
ใน Google Ads คะแนนคุณภาพ (Quality Score) เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดต้นทุนต่อคลิก (CPC) และตำแหน่งของโฆษณา (Ad Rank)

  • เว็บไซต์ที่มี Core Web Vitals ที่ดีช่วยเพิ่ม Landing Page Experience ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของ Quality Score

  • เมื่อคะแนนคุณภาพสูงขึ้น คุณจะจ่ายค่าโฆษณาน้อยลงและได้ตำแหน่งที่ดีกว่าในการแสดงผล

2. ลดอัตราการตีกลับ (Bounce Rate)
หากหน้าเว็บโหลดช้า ผู้ใช้อาจกดปิดก่อนที่เนื้อหาจะปรากฏ ส่งผลให้เกิด Bounce Rate สูง

  • Core Web Vitals ช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วและใช้งานได้ราบรื่น ลดความเสี่ยงที่ผู้ใช้จะออกจากหน้าเว็บทันที

  • Bounce Rate ที่ต่ำส่งผลดีต่อประสิทธิภาพโฆษณา เพราะ Google จะมองว่าเว็บไซต์ของคุณตอบโจทย์ผู้ค้นหา

3. เพิ่ม Conversion Rate
หน้าเว็บที่โหลดเร็วและใช้งานง่ายมีแนวโน้มที่จะเพิ่ม Conversion Rate

  • เมื่อผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลหรือทำรายการต่างๆ ได้อย่างราบรื่น โอกาสในการเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้าจะเพิ่มขึ้น

  • สำหรับ SEM การมี Conversion Rate ที่สูงช่วยลดค่าใช้จ่ายต่อ Conversion (Cost Per Conversion) และเพิ่ม ROI

4. เสริมภาพลักษณ์แบรนด์
เว็บไซต์ที่มอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของแบรนด์

  • เมื่อผู้ใช้มีประสบการณ์เชิงบวกจากโฆษณาและหน้า Landing Page แบรนด์ของคุณจะโดดเด่นและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

  • ส่งผลให้ผู้ใช้อยากกลับมาใช้งานอีกครั้ง

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ใส่ใจ Core Web Vitals ใน SEM

  1. ต้นทุนโฆษณาสูงขึ้น
    เว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพต่ำอาจได้รับ Quality Score ต่ำ ส่งผลให้ค่าโฆษณาแพงขึ้น

  2. เสียโอกาสในการขาย
    หากเว็บไซต์โหลดช้า ผู้ใช้ที่คลิกโฆษณามาอาจไม่รอจนหน้าเว็บแสดงผล เสียโอกาสในการปิดการขาย

  3. ผลลัพธ์โฆษณาแย่ลง
    เมื่อ Bounce Rate สูง Conversion Rate ต่ำ Google อาจลดอันดับโฆษณาของคุณ

Core Web Vitals เป็นปัจจัยสำคัญที่ไม่เพียงส่งผลต่อ SEO แต่ยังส่งผลต่อ SEM อย่างมีนัยสำคัญ การให้ความสำคัญกับการปรับปรุง Core Web Vitals จะช่วยลดต้นทุนโฆษณา เพิ่มโอกาสในการขาย และเสริมประสิทธิภาพแคมเปญ SEM ของคุณให้ดียิ่งขึ้น

หากคุณต้องการคำแนะนำหรือความช่วยเหลือในการพัฒนาเว็บไซต์และแคมเปญ SEM ทีมงาน Snail Rocket พร้อมช่วยคุณยกระดับธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและรวดเร็ว

Core Web Vitals กับการตลาดออนไลน์ในอนาคต

ในยุคที่การตลาดออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว การสร้างเว็บไซต์ที่เหนือกว่าไม่ได้เป็นเพียงการดึงดูดผู้ใช้งาน แต่ยังเกี่ยวข้องกับการรักษาลูกค้าและสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง Core Web Vitals คือหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณก้าวล้ำคู่แข่ง และเพิ่มโอกาสความสำเร็จในโลกออนไลน์

หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO และการพัฒนา Core Web Vitals ให้ Snail Rocket เป็นตัวช่วยที่คุณไว้วางใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *